LIne

“ที่สุดของที่สุด”ย้อนรอย! 10 ที่สุดแห่งความทรงจำพรีเมียร์ลีก 2017/18

ย้อนรอย! 10 เหตุการณ์”ที่สุดของที่สุด”แห่งความทรงจำ พรีเมียร์ลีก 2017/18 

ปิดฉากกันไปอย่างสมบูรณ์ สำหรับศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2017-2018 ภายหลังจากที่ลุยดะฟาดแข้งกันยาวเหยียดประหนึ่งช่วงระยะตั้งท้องของสาวแรกรุ่น! ประสบการณ์สุข เศร้า เหงา เปลี่ยว ที่มีทั้งผู้ผิดหวังและสมหวังตลอดระยะเวลาอันยาวนาน นั่นอาจทำให้แฟนๆ หลายคนหลงลืมเหตุการณ์บางอย่างกันไป….ฉะนั้นวันนี้ เราจะแกะรอยย้อนเวลากลับไปรวบรวมเหตุการณ์ “ที่สุดของที่สุด” แห่งความทรงจำของลีกยอดนิยมที่ผู้คนทั่วโลกต่างก็หลงรักกันครับ

หวานแหว๋วที่สุด
  • หวานแหว๋วที่สุด : มูรินโญ่ จบสงครามน้ำลาย! สงบศึกกับ เวนเกอร์

หลังจากที่เปิดสงครามด่าตามล้างตามเช็ดกันได้ไม่หยุดหย่อนนานนับทศวรรษ จนถึงขั้นเคยมีกระทบกระทั่งฉุดๆ ยื้อๆ กันที่ข้างสนามมาแล้ว แต่ในที่สุด มูรินโญ่ ก็ตัดสินใจปิดฉากความอารมณ์แค้นฝังหุ่นของเขากับ เวนเกอร์ ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลนี้เสียที ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า เวนเกอร์ นั้นได้ประกาศอำลา อาร์เซน่อล อย่างเป็นทางการในช่วงหลังจบซีซั่น ซึ่งทาง “เฮียมู” ที่ครั้งหนึ่งเคยแขว่ะกุนซือชาวฝรั่งเศส ไว้ว่าคือ “ผู้เชี่ยวชาญแห่งความล้มเหลว” ก็ได้กล่าวยกย่อง “เจ๊แหวง” เป็นอย่างสูง โดยระบุว่า

“ผมรู้ว่าผมเคยพูดหลายๆ อย่างที่ไม่ถูกต้อง เขาเคยเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 ครั้ง และ เอฟเอ คัพ อีก 7 หน แถมไม่ใช่แค่นั้นด้วย มันเคยมีสิ่งที่เขาทำที่ ญี่ปุ่น และ ฝรั่งเศส มันมีสิ่งที่เขามอบให้กับ อาร์เซน่อล แม้กระทั่งช่วงที่ทีมไม่ได้แชมป์ มันมีการเปลี่ยนสนามแห่งใหม่ เราทุกคนทราบดีว่าเขาทำอะไรมาบ้าง และผมหวังว่าเขาจะไม่รีไทร์จากเกมฟุตบอล”

ปีนเกลียวที่สุด

แน่นอนว่ามันย่อมต้องมีเหล่าม้ามืดที่พยายามขึ้นมาท้าชิงพื้นที่ท๊อปโฟร์จากทีมใหญ่ๆ อยู่เสมอ บางทีเราอาจจะนึกถึง เอฟเวอร์ตัน หรือ เลสเตอร์ แต่จงเชื่อเถอะว่าแทบไม่มีใครหรอกที่จะคิดว่าทีมไซส์มินิอย่าง เบิร์นลี่ย์ จะกลายเป็นทีมที่ขึ้นมาสูดอากาศ ณ ที่สูงได้แบบนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในวันที่ 12 ธ.ค. 2017 ที่พวกเขาคว้าชัยชนะเหนือ สโต๊ค 1-0 จนก้าวขึ้นไปรั้งที่ 4 แบบที่ไม่มีใครคาดฝันมาก่อน ด้วยทีเด็ดของเกมนอกบ้านที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อซีซั่นก่อนหลายเท่า ขณะที่ความยอดเยี่ยมยามเฝ้าถิ่นก็ยังเจิดจรัสอยู่เหมือนเดิม นั่นทำให้ เบิร์นลี่ย์ ของ ฌอน ไดค์ กลายเป็นเสี้ยนหนามที่ใครๆ ก็ประมาทไม่ได้เลย โดยถึงแม้ว่าในท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะจบฤดูกาลด้วยอันดับ 7 แต่ถึงกระนั้น มันก็ดีพอสำหรับการขีดเขียนหน้าประวัติศาสตร์ คว้าตั๋วไปลุย ยูโรป้า ลีก ในซีซั่นหน้า สิ่งเป็นสิ่งที่อลังการดาวล้านดวงสุดๆ ในรอบ 100 กว่าปีของสโมสร

เวย์น รูนี่ย์ กระซวกครึ่งสนามใส่ เวสต์แฮม
  • เตะปี๊ปดังสุดๆ : เวย์น รูนี่ย์ กระซวกครึ่งสนามใส่ เวสต์แฮม

หลายๆ คนอาจจะมองว่าเขาแห้งเหี่ยวหมดสภาพไปแล้ว และอาจเหลือเพียงแค่ไขมันเด้งดึ๋งอย่างไร้ประโยชน์ยามอยู่ในสนาม แต่ในท้ายที่สุดแล้ว เวย์น รูนี่ย์ ก็แสดงให้เห็นว่าเขายังเป็น “หมูเขี้ยวตัน” ที่มีทีเด็ดหลงเหลืออยู่ โดยเกิดขึ้นในเกมกับ เวสต์แฮม ที่นอกเหนือจากจะระเบิดฟอร์มทำแฮตทริคแล้ว เจ้าตัวยังโชว์พิษสงด้วยการยิงครึ่งสนามในเกมนั้น 1 ลูก ทำเอาคนดูอึ้งกิมกี่กันไปเป็นแถบๆ ก่อนจะปิดฉากฤดูกาลด้วยยอดสะสมประตูที่ทำไปได้ทั้งสิ้น 11 ลูก นั่นก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับแข้งร่างอวบอั๋นวัย 32 ที่กำลังจะเก็บข้าวของย้ายไปทำมาหากินในช่วงสุดท้ายของอาชีพในลีกต่างแดน

หงส์แดง ตบ เรือใบ
  • หัวใจวายสุดๆ : อหังการ หงส์แดง ตบ เรือใบ ไส้แตก จบสถิติไร้พ่าย

ถึงแม้จะเป็นฤดูกาลที่แชมป์ลีกถูกตัดสินไปแล้วเนิ่นๆ จากความเทพเหนือมนุษย์ของ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งกำลังจะลุ้นสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมไร้พ่ายต่อจากทีมชุด ดิ อินวินซิเบิ้ล ของ อาร์เซน่อล แต่แล้วฝันของพวกเขาก็ต้องมาสลายไปในพริบตาในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง และมันเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของ ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งจะเสียอาวุธหนักอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่มันกลับไม่ได้ทำให้ทัพ “หงส์แดง” สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย โดยเป็น “เร้ด แมชชีน” ที่ของขึ้น! ฉีกนำไปถึง 4-1 ในช่วงครึ่งหลัง ก่อนที่ “เรือใบสีฟ้า” จะมาค่อยๆ ยิงตีตื้นไล่มาเป็น 4-3 และถึงขั้นเกือบตีเสมอได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่สุดท้ายแล้วก็เป็น ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่เป็นฝ่ายคว้าชัยไปแบบใจหายใจคว่ำ และนี่ก็กลายเป็นแมตช์ที่ถูกยกให้เป็นเกมที่มันสะเด่าเร้าใจที่สุดเกมหนึ่งของฤดูกาล

  • เหวอที่สุด : อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ทำถ้วย พรีเมียร์ลีก ร่วง

แน่นอนว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในเกมที่ แมนฯ ซิตี้ ฉลองชูถ้วยแชมป์ต่อหน้าแฟนๆ ของตัวเองในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม หลังจบเกมที่พวกเขาเสมอ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 0-0 ในโค้งสุดท้ายนัดที่ 36 ของฤดูกาล ทุกอย่างก็ดูชื่นมื่นดีตามธรรมเนียมเหมือนทุกๆ ปี แต่แล้วอยู่ดีๆ เหล่าผู้เล่นของ “เรือใบสีฟ้า” ก็ใจหายใจคว่ำ หน้าถอดสีซีดเป็นไก่ต้มพร้อมๆ กันแบบไม่ต้องนัดหมาย เนื่องจาก โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ฟูลแบ็คดาวรุ่ง ดันซุ่มซ่ามทำถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก ร่วงตกลงไปกระแทกกับพื้น! แต่ยังดีที่ไม่มีอะไรบุบสลายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่ต้องเสีย เหลือไว้แค่เพียงเสียงหัวเราะแซวตลกดปกฮา และภาพนิ่งของกลุ่มผู้เล่นที่ทำหน้าเหวอลงแปะบนโลกโซเชี่ยลไปทั่วในวันรุ่งขึ้น

  • ดวงกุดสุดๆ : แฟร้งค์ เดอ บัวร์ ตกงาน เปิดฤดูกาลคุม พาเลซ 4 เกมถ้วน!

มันก็จริงที่ว่า พาเลซ สามารถรอดตกชั้นในฤดูกาลนี้ได้ก็เพราะฝีมือบวกประสบการณ์อันข้นคลั่กของ รอย ฮอดจ์สัน กุนซือขรัวเฒ่า แต่ถ้าเราย้อนเวลากลับไปในช่วงเปิดซีซั่น มันก็ดูเป็นอะไรไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยสำหรับคนที่อยู่ก่อนหน้านี้อย่าง แฟร้งค์ เดอ บัวร์ ที่ต้องเอาชื่อมาทิ้ง ชะตาขาดดับอนาถกับการคุมทีมเพียงแค่ 4 นัดแรก ซึ่งเป็นอะไรที่สั้นสุดๆ จนแทบจะเทียบได้ดั่งวงจรชีวิตของยุง! เขาทำทีมแพ้ทั้ง 4 เกมที่ว่านี้ก็จริง แถมยังเป้าสะอาด ยิงไม่ได้สักลูก แต่ถึงกระนั้น นี่ก็ถือเป็นการทำธุรกิจที่ประหลาดล้ำเอามากๆ ของทัพ “ปราสาทเรือนแก้ว” ที่ดันประสาทให้ทุน เดอ บัวร์ วางนโยบายเสริมทัพระยะยาวอย่างจริงจังในช่วงซัมเมอร์ เพียงเพื่อจะมาประกาศไล่ออกในอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น

  • เซอร์ไพรซ์สุดๆ : เดิมพัน หงส์ ซื้อ ซาล่าห์ 42 ล้าน ไร้ทีมแย่ง

มันอาจดูไม่เซอร์ไพรซ์ในตอนนี้ที่จะบอกว่า โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ นั้นสุโค่ยร้ายกาจขนาดไหน แต่จงเชื่อเถอะว่าหากเราย้อนกลับไปเมื่อสักราวๆ 9 เดือนก่อน มันคงมีผู้คนเพียงน้อยนิดที่จะเห็นด้วยว่าเงิน 42 ล้านยูโร ที่ ลิเวอร์พูล ได้เสี่ยงคว้าตัวขุนแข้งจากแดน “พีรามิด” มาร่วมทัพ จะเป็นสิ่งที่คุ้มค่า! หลายๆ คนยังนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่า ลิเวอร์พูล จะมีที่ให้ ซาล่าห์ ลงตรงไหน มิวายต้องคำนึงด้วยเช่นกันว่านี่คือนักเตะที่เคยล้มเหลวใน อังกฤษ กับ เชลซี มาแล้ว แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับพลิกตาลปัตรไปหมด เพราะ ซาล่าห์ จัดการทำลายสถิติทุกอย่างได้ราบเป็นหน้ากลอง เมื่อเขาหวดอย่างบ้าคลั่ง 44 ประตู รวมทุกรายการ พร้อมทำสถิติซัด 32 ประตู นับเฉพาะในลีก อังกฤษ กลายเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ลีกเปลี่ยนระบบการเล่นเป็น 38 นัดต่อฤดูกาล พร้อมเดินหน้ากวาดรางวัลส่วนตัวแทบทุกสถาบันมาครอบครอง และมันจะแสนเว่อร์ยิ่งกว่านี้อีกหลายเท่า ถ้าหากเขาพา “หงส์แดง” คว้าแชมป์ยุโรปที่ เคียฟ ปลายเดือนนี้ พร้อมคว้า บัลลงดอร์ มาจากวังวนอ้อมอกของ โรนัลโด้ และ เมสซี่!

  • คำชมดุเดือดที่สุด : เป๊ป อินจัด! วิ่งซัดคำชม เร้ดมอนด์ ไม่ยั้งหลังเกม

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะประตูชัยของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในช่วงทดเจ็บวินาทีสุดท้าย หรือเป็นเพราะ เซาธ์แฮมป์ตัน นั้นผีเข้าเล่นดีเกินห้ามใจ ? แต่ที่แน่ๆ ก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ “เรือใบสีฟ้า” ดูจะควบคุมสติไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวในเกมนั้น เขารีบวิ่งปรี่เข้าไปหา นาธาน เร้ดมอนด์ ปีกตัวจี๊ดของ “นักบุญ” พร้อมสาดประโยคคำพูดบางอย่างเข้าไปอย่างบ้าคลั่งทันทีที่ผู้ตัดสินเป่าจบเกม 90 นาที ที่ ซิตี้ เชือดคว้าชัยไป 2-1 เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ภาพที่ออกมานั้นดูเหมือนว่า เป๊ป ที่ทำสีหน้าเคร่งขรึมและพ่นคำเสียงดังในเชิงตวาด ไม่น่าจะพูดอะไรที่โอเคออกมาอย่างแน่นอน แต่เกมกลับพลิกอย่างเหลือเชื่อ เมื่อ เร้ดมอนด์ ออกมาเปิดเผยว่าทุกๆ คนนั้นเข้าใจผิดกันไปหมด เนื่องจาก เป๊ป นั้นวิ่งเข้ามาแสดงความชื่นชมในฝีเท้าตนอย่างรุนแรง และเต็มไปด้วยอารมณ์ร่วม โดยมีเจตนาแค่ต้องการให้ตนแสดงฝีเท้าในเชิงเกมรุกออกมาอย่างเต็มที่ หาใช่การด่าทอด้วยคำที่หยาบคายแต่อย่างใด

  • ตำนานสุดๆ : ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ เฟอร์กี้ , เวนเกอร์ และ มูรินโญ่

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมเลี้ยงส่ง อาร์แซน เวนเกอร์ ในการคุม อาร์เซน่อล มาเยือนสังเวียน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งสุดท้าย ภายหลังจากที่เจ้าตัวประกาศล่วงหน้าว่าจะขอปิดฉากช่วงเวลา 22 ปี อำลาทัพ “ปืนใหญ่” หลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งทาง “ปีศาจแดง” ก็ให้เกียรติอย่างเต็มที่ด้วยการส่งอดีตคู่ปรับของ “เจ๊” อย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ลงมามอบถ้วยรางวัลพิเศษให้ด้วยตัวเอง ซึ่งจริงๆ แล้วเพียงแค่นี้มันก็เป็นภาพที่สุดยอดมากๆ แล้ว แต่ “ป๋า” ก็ยังทำในสิ่งที่พิเศษกว่านั้น เมื่อจัดการสั่งเรียก โชเซ่ มูรินโญ่ ไม้เบื่อไม้เมาอีกรายของ เวนเกอร์ มาจับไม้จับมือถ่ายรูปร่วมกันด้วย นับเป็นภาพที่เต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม ซึ่งเราแทบไม่เคยได้เห็นกันมาก่อนในยุคที่เทรนเนอร์เหล่านี้ห้ำหั่นแก่งแย่งความสำเร็จกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา

  • ปรากฏการณ์สุดๆ : เรือใบ ไร้เทียมทาน! ทุบทุกสถิติย่อยยับ

ไม่มีทีมใดจะแข็งแกร่งเสมือนไร้คู่ต่อกรในเกมลีกไปมากกว่านี้อีกแล้ว….แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้เกิดขึ้นใน พรีเมียร์ลีก ในแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน พวกเขาปิดฤดูกาลด้วยการเก็บแต้มอย่างบ้าคลั่ง 100 คะแนน (ทีมแรกในลีกสูงสุด อังกฤษ ที่ทำได้ 100 แต้ม) คว้าแชมป์เมือง “ผู้ดี” แบบแบเบอไม่ปล่อยให้ทีมอื่นได้ลุ้น , เคยเข้าเบรคชนะ 18 เกมซ้อน จนกลุ่มผู้ตามทุกหมู่เหล่าท้อแท้ , เดินหน้ายิงไม่ยั้ง 106 ประตู ลูกได้เสียบวก 79 ทิ้งห่างรองแชมป์ 19 แต้ม สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ แม้กระทั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดไร้เทียมทานของ “เฟอร์กี้” ก็ยังไม่สามารถคว้าแชมป์ด้วยการทิ้งห่างอันดับ 2 ได้มากเท่านี้ และนั่นก็เพียงพอที่เราจะพูดกันได้อย่างเต็มปากว่า แมนฯ ซิตี้ ชุดนี้คือทีมชุดประวัติศาสตร์ที่ไร้เทียมทานมากที่สุดทีมหนึ่งเท่าที่ พรีเมียร์ลีก เคยมีมา

และนั่นคือไฮไลท์แห่งความทรงจำของ พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2017-2018 ที่จะถูกบันทึกเอาไว้ให้อยู่ในที่สุดของที่สุดในความทรงจำทุกคน – แล้วปีหน้าฟ้าใหม่เราคงได้พบกับเรื่องราวเด็ดๆ ที่จะถูกนำมาเกทับกันอีกครั้ง สำหรับการแข่งขันซีซั่นหน้าครับ